กลุ่มชาวบ้านพลัดหลงป่าขณะหาเห็ดถอบที่ลำปาง
จนท.ออกติดตามหาชาวบ้านเข้าป่าเก็บเห็ดและพลัดหลงในป่า เขตอุทยานแห่งชาติแม่วะ อ.เถิน จ.ลำปาง สำหรับคนหลงป่ามี 2 กลุ่มกลุ่มที่ติดต่อได้มี 7 คน อีกกลุ่มมี 8 คน รวม 15 คน ติดต่อยังไม่ได้ โดยในจำนวนผู้พลัดหลงมีคนชรามาด้วย หลายคนยังคงมีอาการหนาวสั่นและอาศัยสุ่มไฟให้ความอบอุ่น ล่าสุดมีรายงานว่าชาวบ้านอีกกลุ่ม 8 คน หาทางออกเจอแล้ว หลังไปพบ พื้นที่ บ.สะพานหิน ต.แม่มอก อ.เถิน ตอนนี้ติดต่อญาติมารับแล้ว
วันที่ 13 มิถุนายน 2559 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลเถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง นายเดชอนันต์ คำสวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.เถิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเถินบุรี และ กู้ภัยแม่วะ ได้นำกำลังเตรียมพร้อมรอรับทีมเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่ได้เดินทางไปรับตัวชาวบ้านจำนวน 7 ราย ที่ได้เข้าป่าไปหาเห็ดถอบ หรือ เห็ดเผาะ ในป่าเขตอุทยานแห่งชาติแม่วะแล้วเกิดพลัดหลงตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. นายเดชอนันต์ คำสวน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯจำนวนกว่า 15 นาย เข้าทำการค้นหาชาวบ้านที่ได้พลัดหลงในป่าลึก โดยใช้วิธีเดินเท้าซึ่งทราบว่าชาวบ้านดังกล่าวมีทั้งหมด 7 คนเป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน มาจากบ้านเชตะวัน หมู่ 8 ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มชาวบ้านได้นำรถกระบะนิสสัน สีแดงเทา หมายเลขทะเบียน บน 5960 แพร่ เข้ามาจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถสำนักปฏิบัติธรรมทุ่งดอยธรรม หมู่ 7 ต.เถินบุรี อ.เถิน ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นได้เดินเข้าไปหาเห็ดถอบในป่าทั้งวัน จนถึงช่วงเย็นพบว่าก็ยังไม่ลงมาพระประจำสำนักปฏิบัติธรรมจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าค้นหา โดยขอเบอร์โทรศัพท์จากกลุ่มชาวบ้านที่รู้จักกัน ซึ่งก็พบว่ายังสามารถติดต่อทางโทรศัพท์มือถือได้อยู่
ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการเดินเท้าเพื่อเข้าไปหากลุ่มชาวบ้านนั้นก็ได้มีการติดต่อพูดคุยสอบถามรายละเอียดกันทางโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด จนถึงเวลา 22.00 น. ก็ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้พบกับกลุ่มชาวบ้านจึงได้นำตัวพากันลงมาจากป่าบนดอย โดยกลุ่มชาวบ้านนั้นถือว่าเป็นผู้สูงอายุซึ่งมีอายุประมาณ 60 – 70 ปี จึงทำให้การเดินเท้าออกจากป่าเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะแต่ละคนมีอาการอ่อนเพลีย จึงไม่สามารถเดินกลับมาทางเดิมได้เนื่องจากมีความสูงชัน ซึ่งระหว่างในช่วงเดินทางกลับนั้นทางเจ้าหน้าที่ที่คอยรอรับช่วยเหลือก็ได้มีการจุดพลุและเปิดสัญญาณไซเรนบอกเป็นระยะ เพื่อป้องกันการหลงป่าซ้ำอีก โดยเจ้าหน้าที่จึงได้พากลุ่มชาวบ้านเดินมาออกอีกทางให้ใกล้กับถนนในหมู่บ้านที่รถเข้าไปถึงจนสามารถพบตัวดังกล่าว
